Guitar care

กีตาร์จัดเป็นเครื่องดนตรีที่สามารถหาซื้อได้ง่าย ศึกษารายละเอียดพื้นฐานการเล่นไม่ยาก ที่สำคัญยังทำให้ดูเท่เวลาที่เล่นนั่นจึงทำให้การเล่นกีตาร์กลายเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมมากๆ ในหมู่วัยรุ่นที่เริ่มอยากมีความรู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถพิเศษ อย่างไรก็ตามสำหรับหลายๆ คนเมื่อเล่นกีตาร์ไปได้สักพักก็ปรากฏว่าเริ่มไม่ค่อยมีแรงขับเคลื่อนหรือความสนุกสนานเหมือนตอนหัดเล่นใหม่ๆ ทำให้บางคนเมือลองซื้อกีตาร์มาแล้วไม่ได้เล่นต่อก็ปล่อยปะละเลยให้กีตาร์สุดที่รักตัวนี้กลายเป็นของตั้งโชว์ที่ฝุ่นเกาะหนา ซึ่งหากใครกำลังเป็นแบบนี้อยู่อยากให้เก็บดูแลรักษากีตาร์ให้ดีเผื่อว่าในอนาคตจะยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หรือหากใครที่ยังไม่รู้วิธีการดูแลรักษากีตาร์ให้เหมาะสมก็มีวิธีการดีๆ มาบอกเช่นเดียวกัน

Guitar care one

วิธีการดูแลรักษากีตาร์อย่างมืออาชีพ

  1. ถ้าหากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้เล่นกีตาร์เป็นประจำแล้วหรือว่านานมากๆ จึงจะหยิบออกมาเล่นสักครั้งก็ควรทำการผ่อนสายกีตาร์ไม่ให้ตึงเกินไปเพื่อที่ว่าคอกีตาร์จะได้ไม่ใช้แรงอยู่ตลอด ที่สำคัญหากปล่อยให้สายตึงตลอดเวลาเมื่อระยะเวลาผ่านไปสายจะเกิดการเพี้ยนและพอปรับสายใหม่ก็มีโอกาสขาดได้สูงเพราะสายเดิมตึงอยู่ก่อนแล้ว
  2. หลังการเล่นเสร็จทุกครั้งให้ใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูเช็ดทำความสะอาดสายด้วยการรูดขึ้นลงตามความยาวทั้งหมดของสาย หรือจะใช้เป็นน้ำยาเช็ดสายกีตาร์ก็ได้เช่นเดียวกัน โดยเราสามารถหาซื้อน้ำยาเหล่านี้ได้ตามร้านขายอุปกรณ์เครื่องดนตรีทั่วไป เมื่อเช็ดเรียบร้อยจึงค่อยนำเก็บใส่กระเป๋า
  3. เลือกใช้เลม่อน ออย ในการเช็ดทำความสะอาดฟิงเกอร์บอร์ด แต่สิ่งที่ต้องระวังคือเลม่อน ออย จะใช้กับฟิงเกอร์บอร์ดที่เป็นไม่เนื้อขาวไม่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณคอกีตาร์ไฟฟ้า
  4. เป็นไปได้อย่าเก็บกีตาร์ไว้ภายในห้องแอร์เนื่องจากว่าความชื้นในห้องแอร์จะสูงกว่าปกติส่งผลให้สายกีตาร์ขึ้นสนิมได้ง่ายและต้องเปลี่ยนสายใหม่อยู่บ่อยครั้งนั่นเอง
  5. เก็บกีตาร์ไว้ในที่ๆ เหมาะสม อย่าวางใกล้กับสิ่งของที่สามารถหล่นมาทับตัวมันได้เพราะนั่นอาจทำให้เกิดการชำรุดเสียหาย
  6. พยายามเก็บกีตาร์ในกระเป๋าทุกครั้งเพื่อป้องกันฝุ่นละอองที่จะมาจับกีตาร์และทำให้กีตาร์ดูเก่ากว่าปกติ

วิธีการเหล่านี้เป็นวิธีสำหรับการดูแลรักษากีตาร์ที่ทุกคนสามารถเลือกทำได้เพื่อเครื่องดนตรีอันเป็นที่รักของตนเอง ก็ในเมื่อตัดสินใจที่จะซื้อมาเพื่อใช้งานแล้วก็ควรทำการดูแลรักษาให้ดีด้วยเช่นเดียวกันเพื่อที่กีตาร์ตัวโปรดจะได้อยู่กับเราไปอีกนานแสนนานไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ