ไวโอลิน อีกหนึ่งในเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายที่จัดอยู่ในแนวคลาสสิค มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลีในราวคริสต์ศตวรรษที่ 16 ผลิตเสียงดนตรีอันไพเราะออกมาด้วยการสี ส่วนมากนิยมใช้ไวโอลินเป็นส่วนประกอบในวงดนตรีออร์เคสตร้า แต่ปัจจุบันสามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับดนตรีประเภทอื่นได้ด้วย เป็นเครื่องดนตรีที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์และทำนองเพลงออกมาได้อย่างวิเศษ ด้วยเสียงแหลมหวานสามารถถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีในบทเพลงช้าเศร้า แต่หากจะประกอบกับบทเพลงเร็วคึกคักไวโอลินก็สามารถทำได้อย่างสนุกสนาน ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เล่นว่าจะสามารถพลิกแพลงออกมาได้ดีเพียงใดด้วย
ลักษณะของไวโอลินนั้นเป็นเครื่องดนตรีที่มีรูปร่างคล้ายกีต้าร์แต่เล็กกว่ามาก ทำมาจากไม้เนื้ออ่อนด้านหน้าที่เรียกว่า ไม้พรูซ ด้านหลังจะเป็นไม้เนื้อแข็งที่เรียกว่า ไม้เมเปิ้ล แล้วใช้ชิ้นส่วนทั้งสองประกอบเข้าหากันก็จะกลายเป็นตัวไวโอลินขึ้น จะมีส่วนปลายที่ใช้จับหรือถือเราจะเรียกว่าด้ามถือ แผ่นไม้ด้านหน้าจะมีช่องอากาศรูปตัว F ไว้ใช้ระบายอากาศภายใน ด้านหน้าจะมีสายทั้งหมด 4 สายขึงตึงอยู่และให้เสียงสูงต่ำแตกต่างกันโดยไล่จากต่ำไปสูงคือ เสียง E = สาย 4, เสียง G = สาย 3, เสียง D = สาย 2 และเสียง E = สาย 1 วิธีการปรับสายให้ตึงหรือหย่อนสามารถทำได้โดยบิดลูกบิดที่ใช้ปรับสายให้ได้เสียงตามต้องการ ตัวไวโอลินนั้นขนาดมาตรฐานจะยาวประมาณ 23.5 นิ้ว
วิธีเล่นไวโอลินนั้น ผู้เล่นจะต้องวางตัวไวโอลินไว้ที่ไหล่ด้านซ้ายและก้มใช้คางกดหรือหนีบไว้เพื่อไม่ให้ไวโอลินเคลื่อนที่ มือขวาจับคันชักแล้วใช้สีไปบนสายที่ขึงอยู่บนตัว คันชักนั้นปกติแล้วทำมาจากขนหางม้าที่ขึงไปบนไม้ที่มีรูปร่างคล้ายกันคันธนูเล็ก ๆ ยาวประมาณ 29 นิ้ว
ส่วนผู้ที่สนใจอยากเริ่มเล่นไวโอลินนั้นก็ควรเลือกสนนราคาที่ไม่แพงมากมาฝึกหัดก่อน และต้องเลือกตามขนาดที่แตกต่างของไวโอลินด้วย เช่น เด็ก ๆ ที่มีอายุน้อย ตัวเล็ก ก็ใช้ขนาดเล็ก เป็นต้น เพราะหากใช้เครื่องที่ใหญ่เกินตัวก็จะเกิดอาการเมื่อยล้าและไม่รู้สึกมีความสุขไปกับดนตรี ซึ่งนอกจากขนาดของไวโอลินก็ต้องเลือกขนาดของคันชักให้เข้ากันอีกด้วย
ไวโอลินนั้น เป็นเครื่องดนตรีที่เล่นไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของผู้ที่สนใจ ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเกิดจากการขยันหมั่นเพียรและฝึกฝน เทคนิคและวิธีการเล่นในบางครั้งก็เกิดจากประสบการณ์ที่เราเคยเจอปัญหาและค้นพบทางออกเอง ดังที่เราจะพบว่านักเล่นไวโอลินบางท่านนั้นสามารถถ่ายทอดอารมณ์มาได้ดีเหลือเกิน เพลงเศร้าก็เรียกน้ำตาได้ เพลงเร็วก็ดุดันคึกคัก ซึ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่เกิดจากการขยันหมั่นเพียงฝึกฝนนั่นเอง